เมื่อเตรียมแปลงเสร็จแล้ว ขุดย้ายต้นกล้าอ่อนจากแปลงเพาะ ตัดยอดออกเสียครึ่งหนึ่ง นำไปปลูกในหลุมที่เตรียมไว้ จับรากให้แผ่กระจายออกไปแล้วจึงกลบดิน รดน้ำ เมื่อเห็นว่าต้นเริ่มเติบโตเป็นปกติแล้ว คอยพูนดินกลบโคน
การดูแลรักษา
1. การให้น้ำ หน่อไม้ฝรั่งเป็นพืชที่ต้องการน้ำมาก แต่ไม่ชอบให้น้ำท่วมหรือขังแฉะ ต้องมีทางระบายให้น้ำไหลออกจากแปลงได้เร็ว เมื่อฝนตากชุก ต้องคอยดูแลแปลงปลูกให้มีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ ถ้าฝนไม่ตกและดินแห้ง ควรให้น้ำอย่างน้อย 3 วันต่อครั้ง หรือให้น้ำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
2. การกำจัดหญ้า คอยดูแลอย่าให้หญ้าขึ้นรกแปลง ในกรณีที่มีหญ้าขึ้นรกมากเกินไป ถ้าสามารถใช้ยาฆ่าหญ้าได้ก็ควรใช้ เพราะการเข้าไปดายหญ้าในขณะที่ต้นกำลังแทงหน่อ จะทำให้กระทบกระเทือนถึงการเจริญเติบโตของหน่อ จึงควรทำการกำจัดหญ้าไปวันละเล็กละน้อยอย่างสม่ำเสมอ ตั้งแต่เริ่มปลูกจนกระทั่งถึงระยะเก็บหน่อ ในตอนเช้าเมื่อตัดหน่อส่งตลาดแล้ว ตอนบ่ายก็ถอนหญ้า ทำหมุนเวียนกันไปทีละร่องจนกว่าจะบรรจบกับร่องเดิม ด้วยวิธีนี้หญ้าก็จะไม่ขึ้นรก ทำให้ยากแก่การกำจัด และเกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมาภายหลัง
3. การใส่ปุ๋ย ใส่หลังจากปลูกเป็นระยะดังนี้
ก. ใส่ปุ๋ยมูลสัตว์ร่วมกับปุ๋ยเคมี สูตรเสมอ 15-15-15 หรือ สูตร 13-13-21 โดยใส่เป็นระยะดังนี้
- เมื่อเริ่มถึงระยะพักตัวของต้นหน่อไม้ฝรั่ง ตอนต้นเดือนพฤศจิกายน
- ต้นเดือนกุมภาพันธ์
- ต้นเดือนพฤษภาคม
- ต้นเดือนกันยายน
รวม 4 ครั้ง ทั้งนี้เริ่มตั้งแต่ใส่จากระยะใดก่อนก็ได้ ขึ้นกับเดือนที่ลงมือปลูก ก่อนใส่ปุ๋ยทุกครั้งต้องถอนหญ้าให้หมด แล้วขุดเป็นหลุมบริเวณใกล้โคนต้นหน่อไม้ฝรั่ง ระวังอย่าให้กระทบกระเทือนหน่ออ่อน ใส่ปุ๋ยมูลสัตว์ที่หมักแล้วในหลุมประมาณหลุมละ 1 กะลา พร้อมกับใส่ปุ๋ยเคมีตามลงไปหลุมละประมาณ 1 ช้อนแกง กลบดินแล้วรดน้ำ
ราคา. 1ชุด. มี 500. เมล็ด. ราคา. 350 บาท รวมค่าส่ง. Ems
**พร้อมคู่มือการปลูก +ปุ๋ยบำรุงดินให้ด้วยค่ะ**
วิธีการปลูกหน่อไม้ฝรั่ง
การเพาะกล้า
การปลูกหน่อไม้ฝรั่งโดยทั่วไปปลูกจากเมล็ด ซึ่งจะต้องทำการเพาะให้เป็นกล้าเสียก่อนประมาณ 4-5 เดือน จึงจะย้ายไปปลูกในแปลงได้ ควรลงมือเพาะกล้าระหว่างเดือนมีนาคม-เมษายน หรือระหว่างเดือนกันยายน-ตุลาคมเลือกแปลงเพาะกล้าในบริเวณที่ดินอุดมสมบูรณ์ ขุดหรือไถดินให้ลึก เก็บหญ้าออกให้หมด ตากดินไว้อย่างน้อย 15 วัน แล้วจึงย่อยหน้าดินให้ละเอียด ทั้งนี้จะต้องเตรียมแปลงเพาะกล้าให้ดีกว่าการเพาะกล้าผักชนิดอื่น ๆ เพราะกล้าหน่อไม้ฝรั่งจะต้องเจริญอยู่ในแปลงเพาะนาน 4-5 เดือน ซึ่งนานกว่าการเพาะกล้าผักทั่วไป ควรใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยมูลสัตว์ในขณะเตรียมดิน เพื่อให้ดินร่วนซุยและอุดมสมบูรณ์ยิ่งขึ้น นอกจากนี้ควรใส่ปุ๋ยเคมีหรือปุ๋ยวิทยาศาสตร์ด้วย เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและเร่งการเจริญเติบโตให้แก่ต้นกล้า สูตรปุ๋ยที่ใช้กับแปลงเพาะควรเป็นปุ๋ยผสมที่มีธาตุ เอน-พี-เค อยู่ในอัตราส่วนเท่า ๆกัน หรือใกล้เคียงกัน เช่น สูตร 15-15-15 หรือ 13-13-21 เป็นต้น ใช้ประมาณ 25 กิโลกรัมต่อไร่ ใส่คลุกเคล้าลงไปในดินจนเข้ากันดีแล้ว จึงยกร่อง ให้ร่องกว้างประมาณ 1 เมตร ถึง 1 เมตรครึ่ง ความยาวของร่องไม่จำกัด สุดแล้วแต่ความยาวของพื้นที่หรือกะตามความเหมาะสม เว้นระยะร่องให้ห่างกันประมาณ 50 เซนติเมตร เพื่อให้เป็นทางระบายน้ำ หรือทดน้ำเข้าแปลงก่อนนำเมล็ดไปเพาะ แช่น้ำอุ่นจัดไว้ 1 คืน ถ้ามีเมล็ดลีบลอยขึ้นมาช้อนทิ้งเสีย แล้วเอาเมล็ดไปหยอดโดยขุดหลุมตื้น ๆ บนแปลงเป็นแถวให้หลุมห่างกัน 20 เซนติเมตร และแถวห่างกัน 30 เซนติเมตร กลบดินสูง 3 เซนติเมตร หรือประมาณ 1 องคุลี หาฟางข้าวมาคลุมแปลงเพาะกล้าบาง ๆ หลังจากเพาะประมาณ 10 วัน กล้าจะงอกหมด เอาฟางออกวางไว้ระหว่างแถวของต้นกล้า ถ้าฝนไม่ตกดินแห้งต้องรดน้ำแปลงกล้าบ้าง ขณะที่กล้ากำลังเติบโตอยู่ในแปลงเพาะ คอยตัดหรือถอนต้นที่อ่อนแอไม่สมบูรณ์ทิ้ง หากมีหญ้าขึ้นต้องถอนทิ้งให้หมดหาปุ๋ยเคมีชนิดละลายน้ำ สูตรเสมอ 15-15-15 หรือ สูตร 13-13-21 ซึ่งมีธาตุปอแตสเซียมหรือธาตุตัวท้ายสูง หรือสูตรใกล้เคียง โดยใช้ปุ๋ย 2 ช้อนแกงละลายในน้ำ 1 ปี๊บรดแปลงกล้า 7 วันครั้ง พอกล้าอายุได้ 4-5 เดือน ก็ขุดไปปลูกในแปลงใหญ่ได้ โดยเลือกเฉพาะกล้าที่แข็งแรงเติบโตดีกอใหญ่ รากมาก ต้นใหญ่ และมีตาขนาดใหญ่ เกษตรกรไม่ควรเสียดายกล้าที่อ่อนแอ ต้นเล็กแกร็น เพราะถ้านำไปปลูกจะเก็บหน่อได้น้อย ทำให้ไม่คุ้มกับเวลาและแรงงานที่ต้องดูแลรักษา
แปลงปลูกหน่อไม้ฝรั่ง
ขอบคุณข้อมูลจาก : อินเตอร์เนต